การปลูก
วิธีการปลูก
1. ใช้ต้นพันธุ์ฝรั่งที่ได้จากการตอนกิ่งหรือปักชำ
2. ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน
3. ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 ซม.
4. ผสมดิน ปุ๋ยคอกจำนวน 5 กิโลกรัม และปุ๋ยร็อคฟอสเฟตจำนวน 500 กรัม เข้าด้วยกันในหลุมสูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
5. ยกถุงกล้าต้นไม้วางในหลุม โดยระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
6. ใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง 2 ด้าน (ซ้ายและขวา)
7. ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก
8. กลบดินที่เหลือลงในหลุม
9. กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
10. ปักไม้หลักและผูกเชือกยึด เพื่อป้องกันลมโยก
11. หาวัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่นฟางข้าว หญ้าแห้ง
12. รดน้ำให้ชุ่ม
13. ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด
ระยะปลูก
ระยะปลูก 3 x 4 เมตร (พื้นที่ไม่ยกร่อง)
ระยะปลูก 3x2.5x7.5 เมตร (ปลูก 2 แถว)
จำนวนต้น/ไร่
จำนวนต้นเฉลี่ย 120 ต้น/ไร่ แบบยกร่องปลูกได้ประมาณ 150 ต้น/ไร่ (ปลูก 2 แถว)
การดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย
สำหรับต้นฝรั่งที่ให้ผลแล้วควรมีการให้ปุ๋ย ดังนี้
1. บำรุงต้น ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15
2. สร้างตาดอก ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12
3. บำรุงผล ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16
4. ปรับปรุงคุณภาพผล ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21
(ส่วนปริมาณการให้ปุ๋ย ประมาณ 500 กรัม / ต้น / ครั้ง)
การให้น้ำ
หลังจากปลูกฝรั่งแล้วคอยรดน้ำให้ในช่วงระยะแรกจนต้นฝรั่งตั้งตัว หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง ช่วงที่เว้นการให้น้ำ คือช่วงที่ฝรั่งกำลังจะออกดอก เมื่อติดผลแล้วจึงให้น้ำและค่อยๆเพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณความชื้นของต้นในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาผลร่วง ผลแตก และทำให้ผลเล็ก
อ้างอิง :
ขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.doae.go.th/plant/farung.htm
วิธีการปลูก
1. ใช้ต้นพันธุ์ฝรั่งที่ได้จากการตอนกิ่งหรือปักชำ
2. ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน
3. ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 ซม.
4. ผสมดิน ปุ๋ยคอกจำนวน 5 กิโลกรัม และปุ๋ยร็อคฟอสเฟตจำนวน 500 กรัม เข้าด้วยกันในหลุมสูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
5. ยกถุงกล้าต้นไม้วางในหลุม โดยระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
6. ใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง 2 ด้าน (ซ้ายและขวา)
7. ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก
8. กลบดินที่เหลือลงในหลุม
9. กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
10. ปักไม้หลักและผูกเชือกยึด เพื่อป้องกันลมโยก
11. หาวัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่นฟางข้าว หญ้าแห้ง
12. รดน้ำให้ชุ่ม
13. ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด
ระยะปลูก
ระยะปลูก 3 x 4 เมตร (พื้นที่ไม่ยกร่อง)
ระยะปลูก 3x2.5x7.5 เมตร (ปลูก 2 แถว)
จำนวนต้น/ไร่
จำนวนต้นเฉลี่ย 120 ต้น/ไร่ แบบยกร่องปลูกได้ประมาณ 150 ต้น/ไร่ (ปลูก 2 แถว)
การดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย
สำหรับต้นฝรั่งที่ให้ผลแล้วควรมีการให้ปุ๋ย ดังนี้
1. บำรุงต้น ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15
2. สร้างตาดอก ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12
3. บำรุงผล ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16
4. ปรับปรุงคุณภาพผล ควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21
(ส่วนปริมาณการให้ปุ๋ย ประมาณ 500 กรัม / ต้น / ครั้ง)
การให้น้ำ
หลังจากปลูกฝรั่งแล้วคอยรดน้ำให้ในช่วงระยะแรกจนต้นฝรั่งตั้งตัว หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง ช่วงที่เว้นการให้น้ำ คือช่วงที่ฝรั่งกำลังจะออกดอก เมื่อติดผลแล้วจึงให้น้ำและค่อยๆเพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณความชื้นของต้นในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาผลร่วง ผลแตก และทำให้ผลเล็ก
อ้างอิง :
ขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.doae.go.th/plant/farung.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น